มรดกทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่
ลั่วหยางถือเป็นหนึ่งในอู่อารยธรรมสำคัญของจีน ที่เคยเป็นเมืองหลวงของ 13 ราชวงศ์ และเป็นจุดเริ่มต้นทางตะวันออกของเส้นทางสายไหมโบราณ นอกจากจะมีประวัติศาสตร์อารยธรรมกว่า 5,000 ปีแล้ว เมืองแห่งนี้ยังเคยเป็นราชธานีมากว่า 1,500 ปี และเป็นศูนย์กลางตามแนวคลองใหญ่ในสมัยราชวงศ์สุยและถัง
ในยุคปัจจุบัน ลั่วหยางยังคงมีบทบาทสำคัญในฐานะฐานอุตสาหกรรมหลักของจีน โดยในแผนพัฒนา 5 ปีฉบับแรก (พ.ศ. 2496-2500) มีโครงการสำคัญระดับชาติ 7 โครงการจากทั้งหมด 156 โครงการที่เริ่มต้นขึ้นที่นี่ ปัจจุบันเมืองนี้กำลังผนึกกำลังเข้ากับโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) โดยมีรถไฟขนส่งสินค้าระหว่างจีน-ยุโรปและจีน-เอเชียกลางให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
ย้อนเวลาสู่ยุคทองราชวงศ์ถัง
การเยือนเริ่มต้นที่ประตูติงติงที่ยังคงตั้งตระหง่านอย่างสง่างาม เหมือนพยานแห่งเสียงกระดิ่งอูฐบนเส้นทางสายไหมในอดีต แขกทุกท่านได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์โบราณสถานประตูติงติง และชมการแสดง “พิธีเปิดประตูเมือง” อันตระการตา
ความประทับใจต่อเนื่องเมื่อแขกย้ายไปที่ภัตตาคาร “Wuhuang Shengyan” สไตล์วัฒนธรรมราชวงศ์ถัง ที่ตกแต่งด้วยราวแกะสลักและโครงสร้างประดับหยกอย่างงดงาม ท่ามกลางเสียงดนตรีและการเต้นรำ แขกบางท่านยังขึ้นไปร่วมเต้นรำกับนักแสดงบนเวทีด้วย
“น่าทึ่ง! ยิ่งใหญ่! สุดยอดมาก!” เป็นคำชื่นชมที่แขกต่างชาติต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน พร้อมบอกว่าจะต้องนำเรื่องราวนี้ไปเล่าให้เพื่อนและครอบครัวฟัง
นวัตกรรมสมัยใหม่และมรดกโบราณ
ที่ศูนย์นวัตกรรมตงฟางหงของบริษัทวายทีโอ กรุ๊ป แขกต่างชาติหลายท่านได้ทดลองขับรถแทรกเตอร์รุ่นใหม่ และประทับใจในเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย แขกหลายท่านกล่าวว่าการสนับสนุนเทคโนโลยีและเครื่องมือจากจีนได้ช่วยพัฒนาการเกษตรในประเทศของตน ทำให้มีรากฐานการเติบโตที่ยั่งยืนและรักษาความมั่นคงทางอาหาร
การเยือนสิ้นสุดที่ถ้ำหลงเหมิน ขุมทรัพย์ทางศิลปะการแกะสลักหินของจีน แขกชาวต่างชาติหลายคนยืนชื่นชมพระพุทธไวโรจนะองค์ใหญ่ และกล่าวว่าลั่วหยางเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์พิเศษ รุ่มรวยด้วยวัฒนธรรมและอารยธรรม พวกเขาหวังที่จะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศของตนกับจีนผ่านการท่องเที่ยว
การเยือนลั่วหยางในครั้งนี้ทำให้แขกผู้เข้าร่วมประชุมสุดยอด SCO ไม่เพียงได้ยินเสียงสะท้อนจากประวัติศาสตร์ แต่ยังสัมผัสพลังขับเคลื่อนของเมืองนี้ในยุคต่างๆ พวกเขาจารึกภาพของลั่วหยางไว้ในใจว่าเป็นเมืองที่ “น่าทึ่ง ยิ่งใหญ่ และสุดยอด” และพร้อมที่จะนำเรื่องราวเหล่านี้ไปเผยแพร่ให้คนทั่วโลกได้รับรู้