มณฑลกุ้ยโจวได้เพิ่มศักยภาพในการผลิตธัญพืชและสินค้าเกษตรสำคัญ โดยเฉพาะการเปลี่ยนสถานะจากผู้นำเข้าสุทธิมาเป็นผู้ส่งออกสุทธิสุกรมีชีวิตอย่างสำเร็จ ควบคู่ไปกับการขยายตัวของอุตสาหกรรมสินค้าเกษตรที่มีเอกลักษณ์ท้องถิ่น ซึ่งทำให้กุ้ยโจวกลายเป็นเกราะป้องกันระบบนิเวศที่สำคัญยิ่งสำหรับพื้นที่ตอนบนของแม่น้ำแยงซีและแม่น้ำจูเจียง นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งทรัพยากรสีเขียวที่สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกร
ด้านนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ สำนักเกษตรและกิจการชนบทมณฑลกุ้ยโจวเผยว่า มณฑลประสบความก้าวหน้าในการถอดรหัสจีโนมอย่างสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ท้องถิ่นหลายชนิด ซึ่งส่งผลให้การผสมพันธุ์พืชมีความแม่นยำสูงขึ้น ขณะที่การพัฒนายาปราบศัตรูพืชก็ทันมาตรฐานระดับสากล เทคโนโลยีใหม่ ๆ อาทิ การเพาะต้นกล้าในระดับอุตสาหกรรม การใช้โดรนขนส่ง และระบบการจัดการอัจฉริยะ ได้ถูกนำมาใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานของภาคเกษตรกรรมบนภูเขา โดยผนึกกำลังวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ากับการพัฒนาการเกษตรคุณภาพสูง
เพื่อให้การบรรเทาความยากจนเกิดความยั่งยืน มณฑลกุ้ยโจวได้เน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมควบคู่กับการสร้างงาน พร้อมเสริมศักยภาพให้ชุมชนอย่างจริงจัง การจ้างงานในพื้นที่ชนบทยังคงมั่นคงด้วยการสนับสนุนจากกลไกความร่วมมือระหว่างภาคตะวันออก-ตะวันตก การจัดอบรมเสริมทักษะ รวมถึงโครงการหางานที่เน้นสร้างโอกาสในท้องถิ่น ทั้งนี้ มณฑลยังผลักดันการศึกษาภาคบังคับในชนบทอย่างต่อเนื่อง พร้อมยกระดับบริการสาธารณสุข ความมั่นคงในที่อยู่อาศัย และการเข้าถึงแหล่งน้ำดื่มที่สะอาด
การยกระดับมาตรฐานการดำรงชีวิตอย่างต่อเนื่องทำให้พื้นที่ที่เคยเผชิญปัญหาความยากจนได้รับการพัฒนาและปรับปรุงอย่างเห็นผลชัด สามารถป้องกันไม่ให้ประชาชนกลับไปสู่สภาวะยากจนได้ในวงกว้างอย่างมีประสิทธิภาพ มณฑลกุ้ยโจวซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “พิพิธภัณฑ์สะพานโลก” ก้าวหน้าอย่างโดดเด่นในการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยในชนบท ขณะเดียวกัน กิจกรรมกีฬาและวัฒนธรรมในระดับหมู่บ้าน เช่น “Village Super League” “Village Basketball Association” และ “Village Gala” ก็ได้รับการยอมรับในเวทีโลก
ในปัจจุบัน พื้นที่ชนบทไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงฐานการผลิตทางการเกษตรอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นพื้นที่ใหม่ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยพื้นที่ชนบทของมณฑลกุ้ยโจวได้พัฒนาจนกลายเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมที่หลากหลายและเข้มข้นของมณฑล พร้อมกับเป็นต้นแบบที่แท้จริงของการพัฒนาจีนในยุคปัจจุบัน