อุทยานนวัตกรรมดังกล่าวได้รับการจัดวางให้เป็นยุทธศาสตร์สำคัญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของนครเทียนจิน โดยทำหน้าที่เป็นมากกว่าพื้นที่ทำงาน แต่เป็นศูนย์บ่มเพาะนวัตกรรมที่ผ่านการออกแบบและพัฒนาอย่างเป็นระบบและประณีต ภายใต้หลักการปรึกษาหารือ การสร้างสรรค์ และการแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน อุทยานแห่งนี้วางตำแหน่งเป็นต้นกำเนิดของนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ ศูนย์กลางการผลักดันงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ และระบบนิเวศที่สนับสนุนบริการทางเทคโนโลยีอย่างครบวงจร โดยมีกลไกการบ่มเพาะควบคู่ไปกับการลงทุนเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก
เพื่อกระตุ้นนวัตกรรมใน 5 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ เทคโนโลยีสารสนเทศยุคใหม่ วัสดุใหม่ การผลิตอุปกรณ์ขั้นสูง ชีวการแพทย์ และพลังงานใหม่ กลุ่มบริษัทผู้บริหารได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงศูนย์ความร่วมมือด้านการตรวจสอบสิทธิบัตร (เทียนจิน) ของสำนักงานสิทธิบัตร ภายใต้สำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติจีน (CNIPA) เพื่อจัดตั้งช่องทางพิเศษในการเร่งรัดกระบวนการตรวจสอบสิทธิบัตรเบื้องต้น ช่วยลดระยะเวลาในการอนุมัติและส่งเสริมการนำงานวิจัยไปใช้จริงได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ศูนย์ความร่วมมือด้านการตรวจสอบสิทธิบัตร (เทียนจิน) ยังได้นำกลไก “หนึ่งทีมผู้เชี่ยวชาญต่อหนึ่งสาขาเทคโนโลยี” มาปรับใช้ ซึ่งความร่วมมืออย่างเป็นระบบนี้ส่งผลให้ระยะเวลาการอนุมัติสิทธิบัตรสั้นลงอย่างก้าวกระโดด จากเดิมที่ต้องใช้เวลานานถึง 2-3 ปี ปัจจุบันสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาเพียง 34 วันเท่านั้น
ทั้งนี้ อุทยานฯ มุ่งมั่นที่จะสร้างระบบบริการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแบบครบวงจร ผ่านการนำเสนอแพลตฟอร์มตรวจสอบรับรองแนวคิดเพื่อลดความยุ่งยากในขั้นตอนเริ่มต้นของการแปลงงานวิจัยสู่ภาคปฏิบัติ พร้อมทั้งรวบรวมแพลตฟอร์มสำหรับการทดลองนำร่องและพัฒนาให้สมบูรณ์ เพื่อเร่งกระบวนการสู่เชิงพาณิชย์และปรับปรุงห่วงโซ่การบ่มเพาะที่เอื้อต่อการเติบโตของสตาร์ตอัปอย่างเป็นระบบ
ตามการเปิดเผยของผู้บริหารระดับสูงกลุ่มบริษัทผู้บริหารอุทยานฯ ระบุว่าอุทยานนวัตกรรมอุดมศึกษาเทียนไคตั้งเป้าสร้างระบบนิเวศที่เชื่อมโยงสถานการณ์การใช้งาน บุคลากร และเทคโนโลยีเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยศูนย์กลางนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งนี้ยังคงเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความสำเร็จที่โดดเด่นยิ่งขึ้นในอนาคต