ในกลุ่มอุตสาหกรรมสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์ บริษัท หนานหนิง ชูซิน อินทิเกรเต็ด เซอร์กิต ดีไซน์ จำกัด ประสบความสำเร็จในการพัฒนาไดรเวอร์ชิปจอภาพผลึกเหลว (LCD) สำหรับอุปกรณ์ไอที ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงจากการสนับสนุนของภาครัฐที่ช่วยปลดล็อกข้อจำกัดด้านบุคลากรและเงินทุน พร้อมสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับโรงงานผลิตเวเฟอร์ท้องถิ่นเพื่อเติมเต็มห่วงโซ่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในกว่างซี โดยปัจจุบันบริษัทฯ ถือครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญากว่า 94 รายการ และคาดการณ์ยอดขายปีนี้จะสูงถึง 400 ล้านหยวน ขณะที่ภาคการผลิตอัจฉริยะ บริษัท กว่างซี ไอเก้อ เวิร์กชอป โฮม เฟอร์นิชิง จำกัด ได้ยกระดับสายการผลิตด้วยเทคโนโลยี AI แบบครบวงจร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตควบคู่ไปกับการสร้างงานและสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชนอย่างยั่งยืน
ด้านอุตสาหกรรมวัฒนธรรม บริษัท หนานหนิง พีค คัลเจอร์ คอมมิวนิเคชัน จำกัด โดดเด่นในฐานะผู้ผลิตแอนิเมชันครบวงจรรายเดียวในกว่างซี เจ้าของผลงานระดับโลกอย่าง “Dolphin Helpers” และ “Princess Amy of Music” ที่เผยแพร่ไปกว่า 80 ประเทศ นอกจากนี้ยังได้รุกเข้าสู่สมรภูมิ AIGC ด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์ม “Ju Xiaobai” ซึ่งใช้คลังข้อมูลมัลติโมดัลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสร้างวิดีโอสั้นที่ตอบโจทย์วัฒนธรรมไทยและเวียดนามโดยเฉพาะ นับเป็นการขยายอิทธิพลทางวัฒนธรรมจีนสู่สากลผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่
สำหรับอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ ศูนย์นวัตกรรมและความร่วมมือด้านปัญญาประดิษฐ์จีน-อาเซียน (South AI Center) ทำหน้าที่เป็นฮับหลักในการเชื่อมโยงการประยุกต์ใช้ AI ระหว่างจีนและอาเซียน โดยมุ่งเน้นอุปกรณ์อัจฉริยะและบริการดิจิทัลข้ามพรมแดน จนกลายเป็นศูนย์รวมวิสาหกิจชั้นนำและทีมวิจัยจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น เจี๋ยต้วนเจ่อ โรโบติกส์ ในเครือบริษัท กว่างซี สือเจียอี้ เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งเป็นพันธมิตรหนึ่งเดียวของ จื้อหยวน โรโบติกส์ ในกว่างซี ที่ดึงศักยภาพเทคโนโลยีระดับสูงมาสร้างแบรนด์หุ่นยนต์อัจฉริยะและเป็นซัพพลายเออร์หลักที่ขยายฐานการใช้งานสู่ภูมิภาคอาเซียน
การพัฒนาสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เป็นเลิศ เช่น ในนิคม South AI Center ที่มีระบบช่องทางด่วนพิเศษในการอนุมัติโครงการและมาตรการลดต้นทุน ได้สร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดโครงการเทคโนโลยีข้ามพรมแดนจำนวนมาก ปัจจุบันเขตเมืองใหม่อู่เซี่ยงเป็นที่ตั้งของแพลตฟอร์มนวัตกรรมระดับชาติ 9 แห่ง ระดับเขตปกครองตนเอง 107 แห่ง มีวิสาหกิจไฮเทค 403 ราย และธุรกิจ SMEs สายเทคโนโลยีอีก 316 ราย โดยในอนาคต อู่เซี่ยงมุ่งมั่นที่จะยกระดับนวัตกรรมดิจิทัลและการบริการระดับมืออาชีพอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นหัวหอกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างประชาคมจีน-อาเซียนที่มีอนาคตร่วมกันอย่างแข็งแกร่ง