ออมรอนทำสถิติยอดขายเครื่องวัดความดันโลหิตทะลุ 400 ล้านเครื่อง พร้อมเดินหน้าเทคโนโลยี AI ป้องกันโรคหัวใจ

บริษัท ออมรอน เฮลธแคร์ จำกัด (OMRON HEALTHCARE Co., Ltd.) เผยยอดขายเครื่องวัดความดันโลหิตแบรนด์ออมรอนทำยอดขายสะสมทั่วโลกทะลุ 400 ล้านเครื่อง สะท้อนความไว้วางใจของผู้บริโภคและบุคลากรทางการแพทย์ที่มีต่อคุณภาพและความแม่นยำของผลิตภัณฑ์ตลอดกว่า 50 ปีที่ผ่านมา

ปัจจุบัน เครื่องวัดความดันโลหิตออมรอนจำหน่ายในกว่า 130 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก โดยบริษัทมุ่งมั่นที่จะลดความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงบริการสุขภาพ โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ที่ยังมีข้อจำกัดด้านทรัพยากรการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน

วิสัยทัศน์ “Going for ZERO”

อายูมุ โอคาดะ ประธานและซีอีโอของบริษัท ออมรอน เฮลธแคร์ กล่าวว่า “การทำยอดขายได้ถึง 400 ล้านเครื่องไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข แต่เป็นสิ่งที่แสดงถึงความไว้วางใจที่ผู้คนนับล้านมีต่อออมรอน เฮลธแคร์ ในการสนับสนุนการเดินทางของพวกเขาไปสู่ชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดีขึ้น”

โอคาดะเน้นย้ำถึงวิสัยทัศน์ “Going for ZERO” ของบริษัท ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อกำจัดการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจทั่วโลก โดยการพัฒนาเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงชีวิตประจำวันและการดูแลสุขภาพเข้าด้วยกัน เพื่อเสริมพลังให้ผู้คนสามารถดูแลสุขภาพเชิงป้องกันได้ด้วยตัวเอง

นวัตกรรมล้ำสมัยเพื่อการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร

ออมรอน เฮลธแคร์ ยังคงพัฒนานวัตกรรมที่เปลี่ยนเครื่องวัดความดันโลหิตให้เป็นมากกว่าอุปกรณ์วัดทั่วไป โดยมีเทคโนโลยีหลักดังนี้:

การเชื่อมต่อดิจิทัล: อุปกรณ์ที่เปิดใช้งานบลูทูธสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน OMRON connect ซึ่งรองรับการแสดงแนวโน้มเป็นภาพ การแบ่งปันข้อมูลกับครอบครัว และการติดตามผลโดยแพทย์

การตรวจจับด้วย AI: เทคโนโลยี Intellisense AFib ที่ได้รับการรับรองจาก FDA ช่วยให้สามารถตรวจจับภาวะหัวใจห้องบนเต้นผิดจังหวะได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ระหว่างการวัดความดันโลหิตตามปกติ ซึ่งเป็นภาวะที่อาจคุกคามชีวิตหากไม่ได้รับการรักษา

การตรวจวัดแบบครบวงจร: เครื่องวัด Complete รวมการอ่านค่าความดันโลหิตและคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ไว้ในอุปกรณ์เดียว และสามารถแบ่งปันข้อมูลกับแพทย์ได้อย่างราบรื่นผ่านแอปพลิเคชัน

การขยายธุรกิจสุขภาพดิจิทัล: ออมรอนยังคงขยายธุรกิจการตรวจวัดทางไกลผ่านการเข้าซื้อกิจการบริษัทย่อยอย่าง Luscii และความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับบริษัทชั้นนำระดับโลก

บริษัทย้ำว่าจะเดินหน้าส่งเสริมนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ บริการ และการให้ความรู้ เพื่อสร้างความตระหนักถึงความเสี่ยงของภาวะความดันโลหิตสูง ไม่เพียงสำหรับผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยแล้วเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ที่อาจยังไม่ทราบว่าตนเองมีความเสี่ยงด้วย เพื่อช่วยให้ชุมชนที่มีความเสี่ยงสูงสามารถตรวจพบและได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ